อินเวอร์เตอร์ (inverter) เป็นอุปกรณ์ที่สำคัญในระบบพลังงานแสงอาทิตย์ เนื่องจากแผงโซล่าเซลล์สร้างกระแสไฟฟ้าที่มีลักษณะแบบตรงรัศมี (direct current – DC) ในขณะที่เครือข่ายไฟฟ้าทั่วไปใช้กระแสที่มีลักษณะสลับได้ (alternating current – AC) ดังนั้นอินเวอร์เตอร์มีหน้าที่สำคัญในการแปลงกระแสไฟฟ้าที่เกิดจากแผงโซล่าเซลล์จากดีซีเป็นเอซี เพื่อให้สามารถใช้งานกับอุปกรณ์ไฟฟ้าในบ้านหรือระบบไฟฟ้าในท้องถิ่นได้ตามปกติ
ขั้นตอนการทำงานของอินเวอร์เตอร์ได้แก่:
การรับข้อมูล: อินเวอร์เตอร์จะรับข้อมูลเกี่ยวกับกระแสไฟฟ้าที่สร้างขึ้นจากแผงโซล่าเซลล์ในรูปแบบของกระแสแบบตรงรัศมี (DC).
การแปลง: อินเวอร์เตอร์จะทำหน้าที่แปลงกระแสไฟฟ้าแบบดีซีเป็นแบบเอซี โดยใช้วงจรไฟฟ้าเชิงตัวต่อ (inverters) ที่มีการควบคุมแบบเจาะจง (controlled switching) หรือการใช้ไฟฟ้าแบบเดียวต่อเนื่อง (pulse-width modulation) เพื่อสร้างกระแสแบบสลับได้ (AC) ที่มีความแม่นยำและความเสถียร
การปรับความถี่และแรงดัน: บางระบบอินเวอร์เตอร์สามารถปรับแรงดันและความถี่ของกระแสไฟฟ้าให้เข้ากับเครือข่ายไฟฟ้าหลักได้ โดยทั่วไปแล้ว แนวโน้มของแรงดันที่ใช้งานได้ในเครือข่ายไฟฟ้าทั่วไปคือ 220 โวลต์หรือ 110 โวลต์ และความถี่ที่ใช้งานได้คือ 50 ฮีร์ตซ์หรือ 60 ฮีร์ตซ์ ขึ้นอยู่กับพื้นที่ที่ใช้งานและมาตรฐานของประเทศ
การควบคุมและควบคุมคุณภาพไฟฟ้า: อินเวอร์เตอร์ยังมีหน้าที่ควบคุมและควบคุมคุณภาพของไฟฟ้าที่สร้างขึ้น เช่น การควบคุมไฟฟ้าแบบกลุ่มคล่อง (grid-tie inverters) ที่สามารถปรับการผลิตไฟฟ้าให้เข้ากับความต้องการของระบบไฟฟ้าและควบคุมคุณภาพของไฟฟ้าเพื่อป้องกันการสร้างสัญญาณรบกวนหรือการขาดแคลนไฟฟ้าในเครือข่าย
การควบคุมการทำงาน: อินเวอร์เตอร์มักจะมีระบบควบคุมที่อัจฉริยะเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพของระบบทำงาน และป้องกันการทำงานในสภาวะที่เสี่ยงต่อความเสียหาย
ดังนั้น อินเวอร์เตอร์มีบทบาทสำคัญในการให้พลังงานไฟฟ้าจากแผงโซล่าเซลล์ใช้งานได้ในรูปแบบที่เหมาะสมกับระบบไฟฟ้าทั่วไป และเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยให้การใช้พลังงานแสงอาทิตย์เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืนในชีวิตประจำวัน